
กรมการพัฒนาชุมชน จัดงานวันคล้ายวันก่อตั้ง กรมการพัฒนาชุมชน ครบรอบ 63 ปี
วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ณ ห้องสัมมนา 3003 ชั้น 3 กรมการพัฒนาชุมชน ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร นายสุรศักดิ์ อักษรกุล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานในพิธีจัดงานวันคล้ายวันก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชน ครบรอบ 63 ปี โดยมีผู้เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน แขกผู้มีเกียรติ และบุคลากรในสังกัดกรมการพัฒนาชุมชนเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
จากนั้น อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ได้กล่าวขอบคุณท่านผู้เคยดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนและมอบแนวทางการปฎิบัติงาน โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
มุ่งสร้างให้กรมการพัฒนาชุมชนมีศักดิ์ศรี มีพลังด้วยการใช้ศักภาพของข้อมูล ทีมงานเจ้าหน้าที่ และงบประมาณที่มีเดินหน้าขับเคลื่อนภารกิจของกรมฯให้เป็นที่รับรู้ว่ากรมฯ ทำ “Social Business” บนพื้นความเชื่อมั่นใจว่า คนทุกคนมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีศักยภาพ สามารถพัฒนาได้ถ้าได้รับโอกาส
มุ่งเน้นการใช้ Power of TEAM ช่วยกันทำงาน โดยคำว่า "TEAM" คือ
Trust - การเชื่อมั่น เชื่อใจในผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และประชาชนว่าเราทำได้ในสิ่งที่เราจะทำ
Empathy - การเข้าใจในงานที่จะทำ เข้าใจเพื่อนร่วมงาน เข้าใจพื้นที่
Active - ทำงานด้วยความรวดเร็ว ทันกับการใช้ประโยชน์จากงานที่ทำ
Management - การบริหารจัดการให้งานที่ทำบรรลุเป้าหมาย
กำหนดทิศทางการทำงานโดย “สร้างคน พัฒนางาน ประสานเครือข่าย” เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วย "การสร้างคน" เราต้องเริ่มตั้งแต่ตัวเราเอง คือ พี่น้องข้าราชการทุกคนต้องมีความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงาน พัฒนาตนเองให้พร้อมที่จะทำงานที่ได้รับมอบหมาย ต้องสร้างผู้นำ/ กลุ่มองค์กร/ ภาคีเครือข่าย ในทุกด้านให้พร้อมที่จะดำเนินงานให้พร้อมไปกับเรา และต้องเป็นทีมเดียวกันในการขับเคลื่อนงาน
"การพัฒนางาน" งานพัฒนาชุมชนที่มีอยู่แล้วในทุก ๆ งาน ที่มีความสำคัญ งานพัฒนาคน พัฒนาอาชีพ พัฒนาองค์กร และงานเพื่อสังคม ต้องทำให้ชัดเจน ทุกคนต้องเข้าใจทิศทางการทำงานที่เหมือนกัน
"การประสานเครือข่าย" การทำงานจะต้องมีการสร้างเครือข่ายทั้งเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ภาคการศึกษา ภาคสื่อมวลชน เพื่อร่วมกันสร้างพลังในการทำงาน รวมไปถึงการสร้างการรับรู้ให้กับสังคม
การดำเนินงานของกรมการพัฒนาชุมชน ในปีที่ ๖๔ เพียงแค่เรานำต้นทุนที่มีอยู่เดิม ทั้งเรื่องของคน เรื่องของงาน และภาคีเครือข่าย เข้ามาบูรณาการทำงานร่วมกัน ก็จะเติมพลังในการที่จะทำให้คุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้นแน่นอน ดังนั้น การที่จะดำเนินงานให้บรรลุวิสัยทัศน์ เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้อย่างยั่งยืนด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ต้องอาศัยพลังจากทุกฝ่ายมาทำงานอย่างบูรณาการ โดยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นธงชัยในการขับเคลื่อนงาน และสิ่งสำคัญเรามาร่วมกันสร้างบ้าน พช. ของเราให้เป็นบ้านที่มีความสุข และอบอุ่น เป็นครอบครัวเดียวกัน